10 จังหวัดภาคกลาง-กทม. เฝ้าระวังเจ้าพระยาเพิ่มสูง เตรียมพร้อมขนของขึ้นที่สูง แจ้งเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำ
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งว่าได้รับข้อมูลจาก กรมชลประทาน ว่าอัตราการไหลของน้ำที่สถานี C.2 อ.เมือง จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ราว 2,600-2,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่ที่สถานี Ct.19 จ.อุทัยธานี และลำน้ำสาขาอยู่ราว 450 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลให้ที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยามีอัตราการไหลของน้ำรวมแล้วราว 3,050-3,250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งรวมประมาณ 550 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทางปภ.จึงปรับเพิ่มปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จากเดิมไม่เกิน 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น ไม่เกิน 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที แบบขั้นบันได เพื่อรับมือกับปริมาณที่เพิ่มขึ้น
ระดับน้ำที่ท้ายเขื่อนคาดว่าจะสูงขึ้นอีกประมาณ 0.60-0.90 เมตร ในพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ ได้แก่
- คลองโผงเผง จ.อ่างทอง
- คลองบางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
- ต.หัวเวียง อ.เสนา / ต.ลาดชิด–ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย)
- จ.สิงห์บุรี บริเวณ อ.เมือง, อ.อินทร์บุรี และ อ.พรหมบุรี–จ.อ่างทอง บริเวณ อ.ไชโย และ อ.ป่าโมก
- จ.ชัยนาท บริเวณ อ.สรรพยา
ปภ. ประสาน 10 จังหวัดภาคกลาง ได้แก่ จ.อุทัยธานี, จ.ชัยนาท, จ.สิงห์บุรี, จ.อ่างทอง, จ.สุพรรณบุรี, จ.พระนครศรีอยุธยา, จ.ลพบุรี, จ.ปทุมธานี, จ.นนทบุรี และ จ.สมุทรปราการ รวมถึงกรุงเทพมหานคร ให้อยู่ในสถานะเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมประชาสัมพันธ์ให้หน่วยงานเอกชนที่ประกอบกิจกรรมริมแม่น้ำ เช่น ร้านอาหาร ท่าเรือ สาธารณะ เตรียมรับมือ และให้ประชาชนที่อยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำหรือพื้นที่ลุ่มต่ำ นอกคันกั้นน้ำ เตรียมพร้อมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงให้พ้นระดับน้ำท่วมที่อาจเกิดขึ้นได้
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ แนวป้องกันน้ำท่วมให้แข็งแรง พร้อมจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ประชาชนควรติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ปฏิบัติตามคำแนะนำของหน่วยงาน อย่าเผลอชะล่าใจ
แม่น้ำเจ้าพระยา #น้ำเพิ่มสูง #ภาคกลางเฝ้าระวัง #ปภ #เตือนภัยน้ำท่วม #สุพรรณบุรี
